วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ผับและบาร์ ในจังหวัดกระบี่

1 อาซูร่า

สถานที่ตั้ง : ถนนเลียบชายหาด อ่าวนางอาซูร่าร้านอาหารอิตาเลี่ยนขนานแท้ ดูแลโดยชาวฝรั่งเศสอัธยาศัยดี น่ารัก และกันเอง ที่จะชวนคุณมาเต็มอิ่มกับเมนูอาหารสไตล์อิตาเลียน เหมาะสำหรับรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานพิซซ่าโฮมเมดอบร้อนจากเตา หรือพาสต้ารสชาติต้นตำรับอิตาเลียน นอกจากนี้ยังมีอาหารแนะนำอย่าง บรูสเกต้า พาร์มิจาน่า เนื้อสันในแบล็ควากิวออสเตรเลีย เป็นต้น และตบท้ายด้วยของหวานมื้อเบาๆอย่าง เค้กทีรามิสุ และ ไอศกรีมเจลาโต 

ประเภทอาหารอิตาเลี่ยน
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00 - 22:00 น.
สอบถามข้อมูลโทร. 0 7563 7848

2 เบลลินี

สถานที่ตั้ง : หาดคลองม่วง เชอราตัน กระบี่ บีช รีสอร์ทเบลลินีร้านอาหารเบลลินี เป็นร้านอาหารในโรงแรมเชอราตัน กระบี่ บีช รีสอร์ท ตั้งอยู่บริเวณริมชายหาด บรรยากาศเปิดโล่งสบายๆ มองเห็นวิวทิวทัศน์ของหาดคลองม่วงโดยรอบ ให้บริการอาหารอิตาเลี่ยนหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่าและพาสต้าต้นตำรับ เนื้อออสเตรเลียนเเละบรรดาขนมหวานมากมาย ซึ่งนอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลระดับพรีเมี่ยมสดๆอีกนานาชนิดให้บริการ 

ประเภทอาหารอิตาเลี่ยน
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00 - 23:00 น.
สอบถามข้อมูลโทร. 0 7562 8000

3 บุหงา สาหรี

สถานที่ตั้ง : หาดไร่เลย์ตะวันออกบุหงา สาหรีบุหงา สาหรี ร้านอาหารที่จะสร้างความประทับใจด้วยบรรยากาศที่ล้อมรอบไปด้วยวิวทิวทัศน์ของทะเลอันดามันและภูเขารูปทรงแปลกตา การรับประทานอาหารที่ห้องอาหาร บุหงา สาหรี เป็นประสบการณ์ที่คุณไม่ควรพลาดซึ่งห่างจากสายลมและเสียงคลื่นเพียงแค่เมตรเดียวเท่านั้น 

ภายในร้านอาหารมีการออกแบบอย่างเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นในพื้นที่ทั้งแบบกลางแจ้งและในร่มอย่างมีสไตล์ บริการอาหารไทยที่เน้นสูตรต้นตำรับไทยแท้ดั้งเดิม อาหารทะเลสด และอาหารแนวตะวันตกรสชาติเยี่ยม ที่ปรุงรสอย่างพิถีพิถันโดยเชฟที่มีประสบการณ์ยาวนาน พร้อมด้วยการบริการจากพนักงานมืออาชีพและเป็นมิตร ที่คุณจะได้รับประสบการณ์ในการทานอาหารในบรรยากาศที่ไม่มีใครเหมือนได้ที่นี่แห่งเดียว
ประเภทอาหารไทย, ตะวันตก
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06:30 - 23:00 น.
สอบถามข้อมูลโทร. 0 7581 9451-4

4 จัสมินไรซ์น

สถานที่ตั้ง : ถนนสายใต้-สุสานหอย โรงแรมทิพย์เรสซิเดนซ์ บูติคจัสมินไรซ์นบริการอาหารไทยและอาหารนานาชาติ ด้วยวัตถุดิบที่ สด สะอาด และรสชาติอร่อย พร้อมเมนูอาหารหลากหลายให้เลือก ในบรรยากาศสบายๆ กันเอง 

ประเภทอาหารไทย
สอบถามข้อมูลโทร. 0 7566 2118

5 ขนาบน้ำวิวซีฟู้ด

สถานที่ตั้ง : อำเภอเมืองขนาบน้ำวิวซีฟู้ดร้านอาหารขนาบน้ำวิวซีฟู้ด เป็นร้านอาหารที่อยู่บนกระชัง เลี้ยงปลาสวยงาม ปลาปักเป้า และปลาเพื่อไว้ปรุงอาหาร ขนาด 12 โต๊ะ ด้วยบรรยากาศสบาย ๆ ริมน้ำ อีกฝากเป็นป่าโกงกางร่มรื่น ด้วยพันธุ์ไม้ป่าชายเลน และบรรดาสิงแสม ที่ห้อยโหนรอนักท่องเที่ยวถ่ายรูป พร้อมกับนกนานาพันธุ์ นอกจากนี้ ทางร้านยังบริการอาหารทะเลสดจากกระชังที่สามารถเลือกได้เอง อาทิ กุ้งมังกร ปูม้า ปูดำ หอยหวาน หอยแครง หอยนางรม บนกระชังริมน้ำ บรรยากาศสบาย ๆ เงียบสงบเหมาะกับการพักผ่อน 

ประเภทอาหารซีฟู้ด
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09:00 - 21:00 น.
สอบถามข้อมูลโทร. 08 6266 7555, 08 1272 7779

6 โกตุง

สถานที่ตั้ง : อำเภอเมืองโกตุงอาหารไทยจีนเก่าแก่ของกระบี่ที่เปิดมานานกว่า 30 ปี ดำเนินการโดยคนไทยเชื้อสายจีน ภายในร้านบรรยากาศแบบธรรมดาทั่วไป แต่เรื่องรสชาติไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน อีกทั้งพนักงานบริการดีและเป็นกันเอง ซึ่งไม่ว่าใครที่ได้ลองแวะมาร้านโกตุงต่างก็ติดอกติดใจจนต้องบอกต่อกันปากต่อปากกันเลยทีเดียว 

ประเภทอาหารจีน
เปิดให้บริการจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 11:00 - 22:00 น.
สอบถามข้อมูลโทร. 0 7561 1522

7 ครัวธารา

สถานที่ตั้ง : หาดนพรัตน์ธาราครัวธาราร้านอาหารทะเลสดที่ขึ้นชื่อของกระบี่ ตั้งอยู่บริเวณอ่าวนาง หาดนพรัตน์ธารา บรรยากาศติดชายทะเลสบายๆ มีเมนูอาหารให้เลือกหลากหลายรสชาติอร่อย ซึ่งไฮไลท์ประจำร้านคือ อาหารทะเลสดๆ ที่มีให้เลือกมากมาย พร้อมด้วยสูตรน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดเด็ด ที่ใครหลายคนได้ลองมาชิมแล้วติดใจจนต้องกลับมาเยือนร้านนี้อีกครั้ง

การเดินทาง
เดินทางจากอ่าวนางประมาณ 3 กิโลเมตร จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ จะมองเห็นร้านครัวธาราจะตั้งอยู่ทางด้านขวามือ
ประเภทอาหารไทย, ซีฟู้ด
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09:00 - 21:00 น.
สอบถามข้อมูลโทร. 0 7563 7361

8 แล เล กริลล์

สถานที่ตั้ง : อ่าวนางแล เล กริลล์สัมผัสกับประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดแสนวิเศษที่ไม่เหมือนใครได้ที่ ร้านอาหารแลเล กริลล์ เต็มไปด้วยบรรยากาศยอดเยี่ยม ท่ามกลางขุนเขาและวิวทะเลอันงดงามของอ่าวนาง โดยเฉพาะยามเย็น ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำทั้งบรรยากาศที่แสนโรแมนติก ควบคู่ไปกับเมนูอาหารรสเลิศของร้านพร้อมเครื่องดื่มกับผู้รู้ใจ 

หากใครได้โอกาสไปแวะเวียนเมืองกระบี่ แล้วชอบร้านอาหารชมวิวสวยๆ แล เล กริลล์ เป็นร้านแนะนำอีกร้านหนึ่งที่อยากให้ลองส้มผัส แล้วคุณจะประทับไม่รู้ลืม การเดินทาง
จากตัวเมืองกระบี่ ใช้ถนนทางหมายเลข 4202 ไปทางอ่าวนาง ตรงไปประมาณ 20 กิโลเมตร จะพบปกาสัยรีสอร์ท อยู่ติดกับสำนักงานตำรวจท่องเที่ยว ทางด้านขวามือ ตรงไปอีกประมาณ 500 เมตร จะพบร้านแลเลกริลล์อยู่ด้านขวามือ
ประเภทอาหารไทย, ซีฟู้ด
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00 - 22:00 น.
สอบถามข้อมูลโทร. 0 7566 1588, 08 4849 0001

ร้านอาหาร จังหวัดกระบี่

เรือนไม้ไทย จังหวัดกระบี่
เรือนไม้ไทย จังหวัดกระบี่
ที่อยู่ 315/5 ถนนมหาราช ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ 81000
สวนอาหาร เรือนไม้ไทย กระบี่
ที่อยู่ : 315/5 ถนนมหาราช ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ 81000
การเดินทาง จากตัวเมืองกระบี่ เข้าถนนมหาราช จากสี่แยกมหาราชไปประมาณ 2-3 กิโลเมตร ร้านเรือนไม้ไทย อยู่ทางด้านซ้ายมือ
บรรยากาศ : ร้านเรือนไม้ไทย เป็นร้านอาหารพื้นเมืองที่เน้นธรรมชาติ ร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด และยังมีซุ้มสำหรับนั่งทานอาหารที่ตกแต่งแบบสไตล์บาหลี แถมเมนูอาหารของที่ร้านก็มีให้เลือกมากมาย รับรองว่าใครที่มาร้านนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน


ขนาบน้ำวิวซีฟู้ด จังหวัดกระบี่
ขนาบน้ำวิวซีฟู้ด จังหวัดกระบี่
ที่อยู่ 30 หมู่ 1 ตำบลคลองประสงค์ อำเภอเมืองกระบี่ กระบี่ 81000
อาหารอร่อยในกระบี่ ขนาบน้ำวิวซีฟู้ด
ที่อยู่ : 30 หมู่ 1 ตำบลคลองประสงค์ อำเภอเมืองกระบี่ จ.กระบี่ 81000
สาขา : เมืองกระบี่
การเดินทาง ที่จอดรถสะดวก ณ ท่าเทียบเรือทั้ง 4 แห่งหน้าเมืองกระบี่ - ท่าเรือปูดำ,ท่าเรือหน้าธนาคารกรุงเทพสาขากระบี่,ท่าเรือสะพานเจ้าฟ้า,ท่า เรือสวนสาธารณธารา นั่งเรือหางยาว ประมาณ 5 นาที
บรรยากาศ : กระชังขนาบน้ำวิวซีฟู้ด บรรยากาศเงียบสงบ สบาย ๆ บนแพลอยน้ำ รับลมทะเลยามเย็น ลิ้มรสอาหารทะเลสดจากกระชัง เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ผลไม้รวมปั่น สงบ สบาย ๆ ใกล้เมืองกระบี่นิดเดียว
"วัดถ้ำเสือ" ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่มาไม่ไกลนัก ราวๆ5-6 กิโลเมตร ชื่อวัดนั้นมีข้อสันนิษฐานว่าเนื่องจากในอดีตเคยมีเสืออาศัยอยู่ และภายในถ้ำยังปรากฏหินธรรมชาติ เป็นรูปแบบของอุ้งเท้าเสือ ส่วนที่มาของวัดนี้น่าจะมาจากพระธุดงค์ที่เดินทางจาริกไปเพื่อหาสถานที่วิเวกในการปฏิบัติธรรม มาอาศัยอยู่ตามถ้ำ และมีชาวบ้านที่ศรัทธาตามมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นวัดในเวลาต่อมา

วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง ทั้งความโดดเด่นของวัดและชื่อเสียงของ"หลวงพ่อจำเนียร" เจ้าอาวาสวัดถ้ำเสือที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธามาช้านาน

สภาพโดยทั่วไปของวัดถ้ำเสือมีลักษณะ เป็นสวนป่า เป็นโพรงถ้ำ มีเพิงผาและแหล่งถ้ำธรรมชาติ เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำลอด ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำพระ เป็นต้น ถ้ำบางแห่งที่ตั้งอยู่ใกล้บริเวณวัดยังสามารถใช้เป็นศูนย์กลางการนั่งฌานของพระภิกษุและเหล่าอุบาสก อุบาสิกาได้อีกด้วย

 
 
ในขณะที่ทัศนียภาพก็รื่นรมย์แวดล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ อายุนับร้อยนับพันปีเนื่องจากมีเขาล้อมอยู่ทุกด้าน บริเวณนี้นอกจากเป็นสถานที่วิปัสสนาแล้ว ยังเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญถึงสองสมัยคือ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ มีการขุดพบวัตถุโบราณหลายอย่าง เช่น เครื่องมือหิน เศษภาชนะดินเผา พระพิมพ์ดิบ

สิ่งสำคัญใน"วัดถ้ำเสือ"นั้นที่ดูเหมือนจะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดและเป็นที่นิยมชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติก็คือการที่ได้มาแวะสักการะขอพรจาก"เจ้าแม่กวนอิม"ซึ่งมีความสูงใหญ่กว่า 5 เมตร ที่ตั้งประดิษฐานอยู่ภายในวัด

นอกเหนือจากแวะสักการะเจ้าแม่กวนอิมแล้วยังสามารถแวะกราบไหว้ "พระพุทธรูปหยกขาว"ศิลปะพม่าอายุนับร้อยปีและ "พระพุทธบาทจำลอง"ได้อีกด้วย ที่นี่มีฝูงลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากนักท่องเที่ยวที่มาสามารถแวะทักทายและนำอาหารให้ฝูงลิงเหล่านี้ได้

ใครที่มาเที่ยววัดถ้ำเสือแล้วยังไม่ได้ขึ้นเขาพิชิตบันได 1,200 ขั้น ถือว่ายังมาไม่ถึงวัด เมื่อขึ้นบันไดมาแล้วทุก 100 ขั้นของบันไดจะเขียนตัวเลขบอกไว้ให้เรานับว่าเหลืออีกกี่ขั้นจึงจะถึงบนยอดเขา
สาเหตุที่ต้องตะเกียดตะกายขึ้นบันไดกว่า1,200ขั้นนั่นก็เพื่อขึ้นไปสักการะ "พระธาตุเจดีย์ระฆังใหญ่"ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขานั่นเอง ซึ่งจากข้างบนนี้จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองกระบี่ได้รอบทิศทีเดียว
วัดถ้ำเสือจึงเป็นอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่มาเยือนยังจังหวัดกระบี่ไม่ควรพลาด การเดินทางก็หาไม่ยากออกจากตัวเมืองมาตามถนนเส้นทางสาย กระบี่ – ตรังประมาณ 5-6 กิโลเมตรก็ถึงแล้วหากหลงทางก็สามารถสอบถามจากชาวบ้านได้เชื่อแน่ว่ารู้จักกันทุกคน
 
อ่าวโละซามะ อีกมุมหนึ่งของทะเลอันดามันซึ่งเงียบสงบ กลางท้องน้ำ ท้องฟ้า และภูเขาหินที่ตระหง่านเหนือเวิ้งทะเล บริเวณชายหาดเล็กๆทางด้านขวาทอดตัวอยู่เคียงคู่เกลียวคลื่นที่เคลื่อนตัวตามลมพลิ้วไหว โดยมีหมู่แมกไม้พุ่มและไม้เลื้อยสีเขียวสดโลมเลียเข้ามาเป็นส่วนประกอบ ถัดต่อไปในบางส่วน คลื่นทะเลกำลังพัดเข้าปะทะ หน้าผาหินที่ประดับด้วยเรียวหินย้อยที่งามราวกับถูกออกแบบบรรจง แตกตัวกลายเป็นฟองสีขาวสาดกระเซ็นเห็นเป็นภาพที่เหนือกว่างานจิตรกรรมของจิตรกรใดๆ ในขณะที่ ใต้ผืนน้ำตื้นๆเบื้องล่าง ปะการังแข็งหลายประเภท เช่น ปะการังก้อน ปะการังแผ่น ปะการังถ้วย ได้ใช้โขดหินที่ผุดขึ้นเป็นหย่อมๆเป็นที่สร้างอาณาจักร เลยลึกลงไปใต้ท้องน้ำ คือชุมชนของปะการังอ่อน ดอกไม้ทะเล และแส้ทะเล แม้ว่า เวิ้งอ่าวที่สวยงามแห่งนี้ มีขนาดไม่ใหญ่ และไม่สวยงามเท่าอ่าวมาหยา แต่ความสงบเงียบ ณ ที่แห่งนี้ ได้สร้างจินตนาการให้ล่องลอยเข้าไปสู่ความเคลื่อนไหวของท้องทะเล
 
เกาะพีพีเล 
พื้นที่เพียง ๖.๖ ตารางกิโลเมตร ของเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูนโดยรอบเกือบทั้งเกาะ หน้าผาสูงชันตั้งฉากกับผิวน้ำทะเลที่มีความลึก เฉลี่ยประมาณ ๒๐ เมตร โดยมีบริเวณที่น้ำลึกสุดประมาณ ๓๔ เมตรอยู่ทางตอนใต้ ทำให้กลายเป็นแหล่งชุมชนของตัวมวลปะการังมากมาย นับแต่แนวด้านตะวันออกเฉียงใต้ ไปตลอดถึงชายฝั่งตะวันออก ในขณะที่บางช่วงเป็นหน้าผามีแนวปะการังเคลือบอยู่เล็กน้อย และยังมีกัลปังหา อีกทั้งหอยมือหมีรวมอยู่ด้วย ปะการังที่เคยหนาแน่นอยู่ในท้องทะเลแถบนี้ เท่าที่มีการสำรวจพบว่าจะเป็นจำพวกปะการังโขดปะการังผิวยู่ยี่ ปะการังดาวใหญ่ ปะการังสีน้ำเงิน ปะการังดอกไม้ทะเล ปะการังถ้วยสมอง ปะการังไฟ ปะการังดอกเห็ด ปะการังเขากวางทรงพุ่มพาน สิ่งต่างๆเหล่านี้ คืออัญมณีเม็ดงามที่ได้ถูกซุกซ่อนไว้ภายในเกาะแห่งนี้ มานานนับแรมปี รอคอยผู้คนมาค้นพบขุมทรัพย์ล้ำค่าแห่งนี้
เกาะปอดะนอก หรือ เกาะไก่ หรือเกาะด้ามขวาน เกาะรูปร่างประหลาด ซึ่งกลายเป็นที่มาของชื่อเกาะอันหลากหลาย เนื่องจากชะง่อนผาที่ยื่นออกมาทางด้านใต้ ทำให้ผู้พบเห็นเกิดจินตนาการต่างๆกันไป บ้างก็เห็นเกาะคล้ายกับส่วนหัวของไก่ บ้างก็เห็นเป็นด้ามขวานที่วางตั้งอยู่ แต่ฝรั่งตาน้ำข้าวกลับมองเห็นเป็นป็อบอาย ตัวการ์ตูนดังในสมัยยังแรกรุ่น หรือบางท่านอาจจะยังอยู่ในวัยอ่อนเดียงสา กำลังนอนคาบไปป์อย่างมีความสุข ท่านสามารถดำผิวน้ำชมปะการังน้ำตื้น หรือปะการังแข็งได้ที่เกาะไก่นี้ แต่ความสมบูรณ์ของปะการังก็คงไม่อาจเทียบเท่ากับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆที่ห่างไกลจากผืนแผ่นดินใหญ่ ความประทับใจที่ท่านจะได้พบ ก็คงจะเป็น หาดทรายขาวทอดยาว เคียงคู่ไปกับน้ำทะเลสวยใส กับปลาลายเสือฝูงใหญ่ ที่มีมนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ ที่มักจะมารอคอยต้อนรับ และ พร้อมที่จะเล่นกับผู้มาเยือนอยู่เสมอ
ทะเลแหวก ลึกล้ำเข้าไปกลางทะเลลึกแห่งอันดามัน ช่วงเวลาหนึ่งที่เรานั่งเรือชมเกาะรูปร่างสวยงามแปลกตา ใครจะเชื่อว่า อีกชั่วข้ามเวลาหนึ่งทะเลที่เราผ่านมาชั่วครู่ จะลดระดับน้ำดุจทะเลแหวกออก จนกลายเป็นหาดทรายขาวสะอาดเชื่อมเกาะสามเกาะอย่างอัศจรรย์ ทะเลแหวกเป็นกลุ่มของเกาะ 3 เกาะ ที่มีหาดทรายเชื่อมติดกันได้แก่  เกาะทับ เกาะหม้อ และ เกาะไก่ ท่านสามารถเดินข้ามจากเกาะไก่ไปยังเกาะทับได้ในยามน้ำลง หากจะให้ดีก็ควรจะเป็นในช่วงน้ำลงต่ำสุดในแต่ละวัน โดยเฉพาะในวันก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ในอดีตนักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือ มาตกปลา มากางเต้นท์ นอนนับดาวในคืนเดือนแรม หรือชมแสงจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญ ค้างคืนบนเกาะได้ แต่ปัจจุบัน ไม่อนุญาตให้นอนค้างแรมบนเกาะแล้ว ทะเลแหวกถือว่าเป็นไฮไลท์สำหรับแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของกระบี่เลยทีเดียว มาเที่ยวทะเลกระบี่ทั้งที ต้องมาเที่ยวทะเลแหวกให้ได้สักหนึ่งหน

เกาะทัพ เป็นเกาะเล็กๆ มีหาดทรายเฉพาะด้านใต้ ยามน้ำลด หาดทรายทางด้านใต้นี้ จะเชื่อมต่อกับแนวสันทรายของเกาะปอดะนอก กลายเป็นสะพานธรรมชาติยาวประมาณ 200 เมตร แม้จะเป็นหาดทรายเล็กๆ แต่เม็ดทรายละเอียดและขาวมาก น้ำทะเลใส

เกาะหม้อ เป็นโขดหิน ไม่มีชายหาดให้ขึ้นไปบนเกาะ น้ำทะเลใสสะอาด เกาะหม้อ อยู่ห่างจากเกาะทัพ
เพียง 70 เมตร หากน้ำลดจะมีสันทรายเชื่อมต่อกัน สามารถเดินจากเกาะหนึ่งไปอีกเกาะหนึ่งได้
น้ำตกร้อน
อ่างอาบน้ำธรรมชาติกลางป่ารองรับสายน้ำตกที่ไหลหลั่นลงมาจากเนินเขา ใครได้มาสัมผัสต่างบอกกันว่า ไม่ใช่น้ำตกธรรมดาๆ แน่นอน ก็ใครจะเชื่อว่า นี่คือน้ำตกร้อนสายน้ำแร่ที่ไหลมาพร้อมๆ กับไออุ่นเพื่อสุขภาพโดยเฉพาะ มีลักษณะเป็นธารน้ำพุร้อนผุด ขึ้นมาจากใต้ดินตามธรรมชาติ มีสารกำมะถัน เจือจางเป็นส่วนประกอบ มีอุณหภูมิพอเหมาะตกลงมาในแอ่งสามารถอาบน้ำได้ เป็นสถานที่ นักท่องเที่ยวนิยมไปอาบน้ำตกร้อน ธารน้ำแร่เพื่อสุขภาพ
น้ำตกร้อนสามารถไปเที่ยวชมได้ทุกวัน ช่วงเวลาที่สวยที่สุดคือช่วงเช้า 07.00-08.00 น. และช่วงเย็น 16.00-17.00 น.

การเดินทาง 
อยู่ในเขตอำเภอคลองท่อม ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 50 กิโลเมตร จากกระบี่ถึง อ.คลองท่อม เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 4038 แล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนรพช. และตามป้ายบอกทางไปจะพบน้ำตกร้อน และสระมรกต


สระมรกต
สระมรกต สระน้ำสวยใสกลางใจป่า กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่นในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ แหล่งสุดท้ายที่พบ นกแต้วแร้วท้องดำ ซึ่งเคยสูญพันธ์ไปนานเกือบ 100 ปี ใครจะรู้บ้างไหมว่า ใจกลางป่าผืนนี้มีทั้งสระน้ำสวยใส และนกหายากอยู่รวมกัน เป็นสระที่รับน้ำมาจากน้ำตกที่ไหลจากเทือกเขาประ-บางคราม น้ำที่ตกมามีสีเขียวคล้ายมรกต เต็มไปทั้งสระ จึงเรียกสระนี้ว่า สระมรกต สระมรกต สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีแต่สภาพที่ดีซึ่งจะเห็นสระเป็นสีเขียวมรกตสดใส มักจะเป็นช่วงเวลาเช้า และเย็น โดยเฉพาะในวันฤดูร้อนที่ท้องฟ้าสดใสปราศจากเมฆฝน

การเดินทาง
อยู่ในเขตอำเภอคลองท่อมจากจังหวัดกระบี่ บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาประ-บางคราม ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 60 กิโลเมตร ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 สู่อำเภอคลองท่อม แยกซ้ายมือทางหลวงหมายเลข 4038 มุ่งหน้าอำเภอลำทับ ระหว่างทางมีทางแยกขวามือเป็นทางย่อยแยกเข้าสู่น้ำตกร้อน และสระมรกตที่มีป้ายบอกทางชัดเจน
ทะเลแหวกลึกล้ำเข้าไปกลางทะเลลึกแห่งอันดามัน ช่วงเวลาหนึ่งที่เรานั่งเรือชมเกาะรูปร่างสวยงามแปลกตา ใครจะเชื่อว่า อีกชั่วข้ามเวลาหนึ่งทะเลที่เราผ่านมาชั่วครู่ จะลดระดับน้ำ ดุจทะเลแหวกออกจนกลายเป็นหาดทรายขาวสะอาดเชื่อมเกาะสองเกาะสองเกาะอย่างน่าอัศจรรย์มีลักษณะเป็นเกาะ 3 เกาะอยู่ในทะเล ยามเมื่อน้ำทะเลลดเป็นแนวยาว 2 เกาะสามารถเดินไปเที่ยวชมได้ซึ่งดูเหมือนเดินอยู่กลางทะเล จึงเรียกว่า ทะเลแหวก ทะเลแหวกสามารถชมได้ดีที่สุดในช่วงเวลาน้ำลงต่ำสุดในแต่ละวัน โดยเฉพาะในวันก่อน และหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ฤดูกาลท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี

การเดินทาง ทะเลแหวกอยู่ในเขตอำเภอเมือง ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 20 กิโลเมตร จากจังหวัดกระบี่ใช้ทางหลวงหมายเลข 4034 แล้วเลี้ยวซ้ายตามทางหลวงหมายเลข 4202 ไปอ่าวพระนาง สามารถเช่าเรือเหมาลำ ได้ทั้งทางเรือหางยาว และเรือเร็ว 

โปรแกรมทัวร์ที่เกี่ยวข้อง ทัวร์ 4 เกาะโดยเรือเร็ว    ทัวร์ 4 เกาะโดยเรือหางยาว
http://www.krabi.go.th/krabigov/travel_calendar.php


ติดต่อ
ศาลากลางจังหวัดกระบี่ ถนนอุตรกิจ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ 81000
โทร 075 611 381 , 075 611 114 , 075 612 178 , 075 612 759
โทรสาร 075 611 381 , 075 611 114
สป.มท 71120 , 71122, 71124
E-mail : krabi@moi.go.th , kbidata@gmail.com

ลิ้งแผ่นที่
https://maps.google.co.th/maps?q=%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B9%88&ie=UTF-8&hq=&hnear=0x30518d792d7f9309:0x10223bc2c364c90,%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94+%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B9%88&gl=th&ei=oX0IU439Hcr-lAXvwICIBA&ved=0CJABELYD


วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ประวัติเมืองกระบี่

ประวัติความเป็นมาจังหวัดกระบี่
จังหวัดกระบี่ ตั้งอยู่ทางชายฝั่งทะเลด้านตะวันตก คือทะเลอันดามัน ติดต่อกับจังหวัดพังงา และสุราษฎร์ธานีทางด้านทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดตรังทางด้านทิศใต้ และติดต่อกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี กับจังหวัดนครศรีธรรมราช ทางด้านตะวันออก

ตัวจังหวัด ตั้งอยู่ระหว่างแนวเทือกเขา ที่สำคัญของภาคใต้ สองแนว คือ แนวเทือกเขาภูเก็ต อยู่ทางทิศตะวันตก แนวเทือกเขานครศรีธรรมราช อยู่ทางทิศตะวันออก เป็นเทือกเขาที่ต่อเนื่องมาจาก เทือกเขาตะนาวศรี พื้นที่ส่วนใหญ่ มีภูเขาหินปูนเป็นลูกโดด ๆ เตี้ย ๆ มีถ้ำหินปูน บ่อน้ำร้อน และแอ่งน้ำ ที่เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดิน สลับกับพื้นที่แบบลูกคลื่นลอนลาด ที่ราบเชิงเขาที่ลาดเอียง ไปทางชายฝั่งด้านใต้ และด้านตะวันตก และที่ราบแคบ ๆ แถบชายฝั่ง

พื้นที่ตอนกลาง มีแนวภูเขาที่สำคัญ คือ ภูเขาพนมเบญจา อยู่ในเทือกเขาภูเก็ต วางตัวอยู่ในแนวเหนือ - ใต้ เป็นภูเขาที่มียอดเขาสูงสุด ในแนวเทือกเขาภูเก็ต คือสูง ๑,๔๐๐ เมตร เป็นแนวสันปันน้ำ ด้านตะวันตก ไหลลงสู่อ่าวพังงา ด้านตะวันออก ไหลลงสู่แม่น้ำกระบุรี ด้านทิศเหนือ ไหลลงสู่แม่น้ำตาปี ในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี

จังหวัดกระบี่ มีชายฝั่งทะเล ยาวประมาณ ๑๖๐ กิโลเมตร เป็นชายฝั่งทะเลยุบตัว อันเกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลก ใกล้กับแนวแผ่นดิน มีลักษณะเว้าแหว่ง และสูงชัน ต่างกัน บางบริเวณ มีภูเขาติดกับชายฝั่งทะเล เช่น เขากาโรส และมีเกาะอยู่นอกชายฝั่ง อยู่ถึง ๑๓๐ เกาะ ในบรรดาเกาะดังกล่าว มีผู้คนอาศัยอยู่ เพียง ๑๓ เกาะ เกาะที่สำคัญ ได้แก่ เกาะลันตา เกาะจำ เกาะพี - พี เกาะศรีบอยา เกาะไหง ฯลฯ

พื้นที่ชายฝั่งส่วนใหญ่ เป็นป่าชายเลนไหล่ทวีปผืนแคบ ๆ มีหาดทรายอยู่น้อย มีบางบริเวณถูกแรงบีบอัดของเปลือกโลก ทำให้ท้องทะเลเดิม ถูกยกตัวขึ้นมาอยู่บนชายฝั่ง เช่น พื้นที่บริเวณสุสานหอย ๗๕ ล้านปี ที่บ้านแหลมโพธิ ตำบลไสไทย อำเภอเมือง ฯ
เมืองกระบี่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ 

เจ้าพระยานครศรีธรรมราช ให้พระปลัดเมือง มาตั้งเพนียดจับช้างที่บ้านปกาไส ต่อมามีผู้คนมากขึ้น ก็ยกฐานะเป็นแขวงเมือง แล้วได้รวบรวมแขวงเมืองต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียง ยกฐานะขึ้นเป็นเมืองกระบี่ แต่เนื่องจากไม่มีรายละเอียดว่า เป็นปลัดท่านใด จึงไม่สามารถกำหนดระยะเวลาลงไปได้ อย่างไรก็ตาม ก็มีการสันนิษฐานว่า การตั้งเพนียดจับช้างที่ปกาไสนั้น น่าจะเกิดปลายสมัยเจ้าพระยานคร (พัด) ซึ่งปกครองเมืองนคร ฯ อยู่ ๒๗ ปี ถึง พ.ศ.๒๓๕๔

ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2415 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะแขวงเมืองปกาสัย ขึ้นเป็นเมือง และทรงพระราชทานนามว่า “เมืองกระบี่” โดยให้ตั้งที่ทำการบริหารราชการ อยู่ที่ตำบลกระบี่ใหญ่ (บ้านตลาดเก่า) ในท้องที่อำเภอเมือง ของเมืองนครศรีธรรมราช มีเจ้าเมืองคนแรก ชื่อหลวงเทพเสนา และต่อมา ในปี พ.ศ. 2418 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้แยกเมืองกระบี่ ออกจากการปกครองของเมืองนครศรีธรรมราช เป็นเมืองจัตวา ขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานคร

สำหรับการตั้งเมืองนั้น เมื่อ พ.ศ. 2433 พระยารัษฎานุประดิษฐ์ (คอ ซิบบี้ ณ ระนอง) สมุหเทศาภิบาล ประสงค์จะให้เมืองอยู่ใกล้กับท่าเรือ สามารถติดต่อกับต่างประเทศได้สะดวก จึงได้ย้ายศาลากลางจากตลาดเก่ามาตั้ง ณ ที่ตั้งปัจจุบัน

ต่อมาปี พ.ศ. 2475 ศาลากลางหลังเก่าทรุดโทรมมาก จึงได้ตั้งขึ้นใหม่ ณ ริมแม่น้ำกระบี่ ตำบลปากน้ำ ตรงข้ามที่ดั้งเดิม ไปทางทิศตะวันออก

ปัจจุบันนี้ เมืองเจริญขึ้น ศาลากลางหลังเก่าคับแคบ และทรุดโทรม จึงได้สร้างอาคารศาลากลางหลังใหม่ขึ้น หันหน้าไปทางพระบรมมหาราชวัง เมื่อ พ.ศ. 2510 ความหมายของคำว่า “กระบี่” มีตำนานเล่าลือกันมาว่า ชาวบ้านได้ขุดพบมีดดาบเล่มหนึ่ง ได้นำมามอบให้กับเจ้าเมืองกระบี่ ต่อมาไม่นาน ก็ขุดพบมีดดาษเล็ก อีกเล่มหนึ่ง รูปร่างคล้ายกับมีดดาบเล่มใหญ่ และได้นำมามอบให้กับเจ้าเมืองกระบี่ เช่นกัน เจ้าเมืองเห็นว่า ควรเก็บไว้เป็นดาบคู่บ้านคู่เมือง เพื่อเป็นสิริมงคล

แต่เนื่องจากขณะนั้น ยังสร้างเมืองไม่เสร็จ จึงได้นำดาบไปเก็บไว้ในถ้ำ เขาขนาบน้ำ หน้าเมือง โดยวางไขว้กัน ลักษณะการวาง จึงกลายเป็นตราสัญลักษณ์ ประจำจังหวัดกระบี่ ในปัจจุบันยังมีการสันนิษฐานอื่น ๆ เกี่ยวกับที่มาของชื่อ “กระบี่” ในความหมายที่แปลว่า “ลิง” ว่า เมืองกระบี่ก่อนแขวงเมืองปกาสัย เป็นที่ตั้งของเมือง “บันไทยสมอ” ซึ่งเป็นเมืองในสิบสองนักษัตร ขึ้นตรงต่อเมืองนครศรีธรรมราช และเมืองบันไทยสมอ ใช้ตราลิงเป็นตราประจำเมือง โดยถือเอาความหมายแห่งเมืองหน้าด่านปราการ เพราะลิงในสมัยก่อน ถือว่ามีความองอาจกล้าหาญ เทียบเท่าทหารกองหน้า เช่น บรรดาลิงแห่งกองทัพพระราม และในสภาพความเป็นจริง คนเฒ่า คนแก่ของเมืองกระบี่ เล่าว่า ในสมัยก่อนมีลิงอยู่เป็นจำนวนมาก

เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๒ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สมัยที่ดำรงพระอิสริยยศ เป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ได้เสด็จประพาสเมืองกระบี่ สมัยพระแก้วโกรพ (หมี ณ ถลาง) เป็นเจ้าเมือง ดังความปรากฏ ในจดหมายเหตุประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ ร.ศ. ๑๒๘ (พ.ศ. ๒๓๕๒) พระองค์เสด็จโดยเรือถลาง ผ่านภูเก็ต พังงา มาถึงปากน้ำกระบี่ ทางเมืองกระบี่ ได้จัดขบวนเรือยาว เรือพาย เป็นขบวนต้อนรับ เรือเข้าจอดท่าสะพานเจ้าฟ้า พระองค์ได้เสด็จทอดพระเนตรสถานที่ราชการ ทอดพระเนตรถ้ำหนองกก ซึ่งต่อมาได้ชื่อว่าถ้ำเสด็จ ทอดพระเนตรการชนควาย มวยมลายู หนังตะลุง มโนราห์ และมะยง (มะโย่ง) วันรุ่งขึ้น เรือออกจากเมืองกระบี่ ผ่านเกาะลันตา แหลมกรวด ทอดพระเนตรการงมหอยนางรม วันต่อมาเสด็จเกาะลันตา

ในปี พ.ศ. ๒๔๘๔ เกิดสงครามมหาเอเซียบูรพา มีกองทหารญี่ปุ่น เข้ามาตั้งอยู่ในเมืองกระบี่ ๒ แห่ง คือที่บริเวณบ้านทุ่งแดง และบริเวณบ้านคลองหิน ใช้อาคารโรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูล เป็นที่ตั้งกองบัญชาการ หน่วยต่อต้านญี่ปุ่นในจังหวัดกระบี่ ได้ประสานงานกับเสรีไทย ผลักดันให้ญี่ปุ่นถอนทหารออกไป เรือกลไฟชื่อถ่องโห ซึ่งเดิมเป็นเรือสินค้า วิ่งขนส่งสินค้าระหว่าง ภูเก็ต - กระบี่ - ตรัง - ปีนัง ทหารญี่ปุ่น ยึดเอาไปใช้ขนส่งทหาร และสัมภาระ ได้ถูกตอร์ปิโด จากเรือดำน้ำ ฝ่ายสัมพันธมิตร ยิงจมที่บริเวณเกาะหัวขวาน บริเวณทะเลกระบี่ ซากเรือยังจมอยู่ใต้น้ำ มาจนถึงทุกวันนี้ ในช่วงเวลาสงคราม และหลังสงคราม ชาวกระบี่ขัดสน แร้นแค้นมากกว่าเมืองอื่น ๆ ถึงสองเท่า เพราะกระบี่ในสมัยนั้น มีความทุรกันดาร เป็นปกติอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านการคมนาคมทางบก ติดต่อกับจังหวัดอื่น ๆ คงมีแต่เฉพาะทางเรือ ที่ติดต่อกับจังหวัด ภูเก็ต พังงา ระนอง ย่างกุ้ง ปีนัง สิงคโปร์

กระบี่เป็นเมืองช้างมาแต่โบราณ การตั้งเมืองขึ้น ก็เนื่องมาจากการตั้งพะเนียดจับช้าง ของปลัดเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๗ ชาวบ้านได้คล้องช้าง ที่บ้านป่าหนองเตา ตำบลลำทับ ปัจจุบันคือบ้านป่างาม ตำบลดินอุดม คล้องช้างได้ ๖ เชือก มีช้างเผือกรวมอยู่ด้วย ๑ เชือก เป็นเพศผู้ อายุประมาณ ๔ ปี ให้ชื่อว่าพลายแก้ว ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ทางจังหวัดได้แจ้งไปทางองค์การสวนสัตว์ข อน้อมเกล้า ฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้รับการสมโภชน์ขึ้นระวาง ณ โรงช้างต้น พระราชวังดุสิต เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ได้นามว่า พระเศวตอดุลยเดชพาหน ภูมิพลนวนาถบารมี ฯ เป็นช้างเผือกโท



- ข้อมูลทั่วไป
กระบี่ เมืองชายทะเลในฝัน งดงามด้วยหาดทรายขาว น้ำทะเลใส ปะการังสวย ถ้ำโตรกชะโงกผา และหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 100 เกาะ รวมกันเป็นมนต์เสน่ห์ ที่สร้างความประทับใจ ให้แก่นักท่องเที่ยว ที่มาเยือน

กระบี่ เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 814 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 4,708 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยภูเขา ที่ดอน ที่ราบ หมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 130 เกาะ อุดมไปด้วยป่าชายเลน ตัวเมืองกระบี่ มีแม่น้ำยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ไหลผ่านลงสู่ทะเลอันดามัน ที่ตำบลปากน้ำ นอกจากนี้ ยังมีคลองปกาสัย คลองกระบี่ใหญ่ และคลองกระบี่น้อย มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาที่สูงที่สุด ในจังหวัดกระบี่ คือ เทือกเขาพนมเบญจา

จากหลักฐานทางโบราณคดี สันนิษฐานได้ว่า บริเวณเมืองกระบี่ เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณ ที่เก่าแก่มากแห่งหนึ่ง ในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และต่อเนื่องมาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ ยังมีข้อสันนิษฐาน เกี่ยวกับชื่อเมืองกระบี่ ว่า อาจมาจากความหมาย ที่แปลว่าดาบ เนื่องจากมีตำนานเล่าสืบต่อกันมา เกี่ยวกับการขุดพบมีดดาบโบราณ ก่อนที่จะสร้างเมือง

ตัวเมืองกระบี่ เป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์สวยงาม มีเขาขนาบน้ำ ที่เป็นจุดเด่นของเมือง คู่กับป่าชายเลนที่สมบูรณ์ เขียวชอุ่ม ทำให้บรรยากาศ ดูร่มรื่นสบายตา นักท่องเที่ยว สามารถพายเรือแคนู เพื่อเป็นการพักผ่อน และออกกำลังกาย หรือในช่วงเย็นแดดร่ม อากาศสบาย ๆ สามารถเดินเล่นรับลม พร้อม ๆ กับนั่งรับประทานอาหารเย็น ได้ที่ตลาดโต้รุ่ง บริเวณท่าเรือเจ้าฟ้า และบริเวณตลาด ถนนมหาราช ก็มีอาหารพื้นเมืองให้รับประทาน ทั้งขนมจีนน้ำยา น้ำพริก แกงไตปลา ไก่ทอดพื้นเมือง รสชาติกลมกล่อม และสำหรับนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว ตามหาด หรือเกาะต่าง ๆ เช่น หาดไร่เลย์ อ่าวนาง เกาะลันตา เกาะพีพี เกาะจำ และเกาะสีบอยา สามารถลงเรือโดยสาร หรือติดต่อเช่าเรือ ได้ที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ในอำเภอเมือง 

ประวัติความเป็นมา 
จังหวัดกระบี่ ตั้งขึ้นในปลายรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ในอดีต เป็นเพียงแขวงหนึ่ง อยู่ในอำนาจการปกครอง และบังคับบัญชา ของเมืองนครศรีธรรมราช เรียกว่า "แขวงเมืองปกาสัย" พระยาผู้ครองเมืองนครศรีธรรมราช ให้ปลัดมาตั้งค่ายทำพะเนียดจับช้าง ของท้องที่ตำบลปกาสัย และได้มีราษฏร จากเมืองนครศรีธรรมราช อพยพมาตั้งหลักแหล่ง ทำมาหากิน เพิ่มมากขึ้น พระปลัดได้ยกตำบลปกาสัย ขึ้นเป็น "แขวงเมืองปกาสัย" ขึ้นต่อเมืองนครศรีธรรมราช

ประมาณปี พ.ศ.2415 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะขึ้นเป็นเมืองปกาสัย และทรงพระราชทานนามว่า "เมืองกระบี่" เมื่อได้ประกาศตั้งขึ้นเป็นเมืองแล้ว โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งที่ทำการ อยู่ที่ตำบลกระบี่ใหญ่ (บ้านตลาดเก่า) ในท้องที่อำเภอเมืองกระบี่ ปัจจุบัน มีหลวงเทพเสนา เป็นเจ้าเมืองกระบี่ คนแรก ต่อมาในปี พ.ศ.2418 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แยกเมืองกระบี่ ออกจากการปกครอง ของเมืองนครศรีธรรมราช เป็นเมืองจัตวา ขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ และในปี 2443 สมัยพระยารัษฎานุประดิษฐ์ (คอซิมบี้ ณ ระนอง) เป็นสมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต ได้พิจารณาเห็นว่า ศาลากลางจังหวัด ที่บ้านตลาดเก่านั้น ไม่สะดวกต่อการคมนาคม เพราะสมัยนั้น ต้องอาศัยเรือเป็นพาหนะ จึงได้ย้ายที่ตั้งเมือง ไปอยู่ตำบลปากน้ำ ซึ่งอยู่ใกล้ปากอ่าว เป็นร่องน้ำลึก เรือใหญ่สามารถเข้าเทียบท่า ได้สะดวก ทำให้เป็นที่ตั้งศาลากลางจังหวัด จนถึงปัจจุบันนี้
ความหมายของคำว่า " กระบี่" มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า ชาวบ้านได้ขุดพบมีดดาบโบราณใหญ่เล่มหนึ่ง นำมามอบให้กับเจ้าเมืองกระบี่ และต่อมาไม่นาน ก็ขุดพบมีดดาบโบราณเล็ก อีกเล่มหนึ่ง รูปร่างคล้ายกับมีดดาบโบราณเล่มใหญ่ จึงนำมามอบให้กับเจ้าเมืองกระบี่ เช่นกัน เจ้าเมืองกระบี่ เห็นว่า เป็นดาบโบราณ สมควรเก็บไว้เป็นดาบคู่บ้านคู่เมือง เพื่อเป็นศิริมงคล แต่ขณะนั้น ยังสร้างเมืองไม่เสร็จ จึงได้นำดาบ ไปเก็บไว้ในถ้ำ เขาขนาบน้ำ หน้าเมือง โดยวางไขว้กัน ซี่งลักษณะการวาง ทำให้เป็นสัญลักษณ์ ของตราประจำเมือง คือ ดาบไข้วทาบอยู่บนภูเขาขนาบน้ำ และบ้านที่ขุดพบดาบใหญ่ ได้ตั้งชื่อว่า "บ้านกระบี่ใหญ่"บ้านที่ขุดพบดาบเล็ก ได้ตั้งชื่อ "บ้านกระบี่น้อย" แต่มีอีกตำนานหนึ่ง สันนิษฐานว่า คำว่า "กระบี่" อาจเรียกชื่อ ตามพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่ง ที่มีมากในท้องถิ่น คือต้น "หลุมพี" เรียกชื่อว่า "บ้านหลุมพี" มีชาวมลายู และชาวจีนที่เข้ามาค้าขาย ได้เรียกเพี้ยนเป็น "กะ-ลู-บี" หรือ "คอโลบี" ต่อมาได้ปรับเป็นสำเนียงไทยว่า"กระบี่" 

สัญญลักษณ์ ประจำจังหวัด 
รูป กระบี่ ไขว้ เบื้องหลังมีภูเขาและทะเล
กระบี่ ไขว้ หมายถึง ดาบโบราณซึ่งครั้งหนึ่ง มีผู้ค้นพบในท้องที่จังหวัด
ภูเขา คือ เทือกเขาพนมเบญจาที่สูงสุดในแถบนั้น มีเมฆปกคลุมตลอดเวลา และกั้นเขตแดนกับจังหวัดอื่น
ทะเล คือ ชายอาณาเขตอีกด้านหนึ่งซึ่งติดต่อกับมหาสมุทรอินเดีย

จังหวัดกระบี่ ใช้อักษรย่อว่า "กบ" 

กระบี่